อบรม THEME : E-Contract for lawyers “การทำสัญญาทางอิเล็กทรอนิกส์ภาคปฏิบัติสำหรับทนายความและที่ปรึกษากฎหมาย”

เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2568 เวลา 8.30 – 16.00 น. ณ ห้องบรรยายชั้น 4 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ สถาบันวิชาชีพกฎหมายชั้นสูง แห่งสภาทนายความ ได้จัดอบรมหลักสูตรวุฒิบัตรวิชาชีพกฎหมายชั้นสูง THEME : E-Contract for lawyers “การทำสัญญาทางอิเล็กทรอนิกส์ภาคปฏิบัติสำหรับทนายความและที่ปรึกษากฎหมาย” เพื่อพัฒนาศักยภาพและเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำสัญญาทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งในยุคดิจิทัล โดยมีนายสุมิตร มาศรังสรรค์ ผู้อำนวยการสถาบันวิชาชีพกฎหมายชั้นสูง เป็นประธานในพิธีเปิด และนายนรเทพ บุญเก็บ อนุกรรมการบริหารหลักสูตร กล่าวรายงาน นายภูวเดช แดนนิวัฒน์เดชา อนุกรรมการบริหารหลักสูตร เป็นพิธีกรผู้ดำเนินรายการ จากนั้น ดร.วศิน พิพัฒนฉัตร อนุกรรมการบริหารหลักสูตร ได้ให้เกียรติปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “บทบาทหน้าที่ทนายความและที่ปรึกษากฎหมายในการทำสัญญาทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อประโยชน์สาธารณะ”
ในช่วงเช้า ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ได้แก่ นางสาววิศนี หองส่ำ เจ้าหน้าที่ฝ่ายให้คำปรึกษาและพัฒนาทักษะ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และนายสิริณัฐ ตั้งธรรมจิต เจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายให้คำปรึกษาและพัฒนาทักษะ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ การมีผลทางกฎหมายของ e-Contract” ซึ่งครอบคลุมเนื้อหาสำคัญ อาทิ นิยามและวงจรของ e-Contract ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 การแสดงเจตนาในสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์แบบทั่วไป และตัวอย่างการใช้งานตามข้อเสนอแนะของ ETDA
และในการบรรยายภาคบ่าย วิทยากรทั้งสองท่านบรรยาย หัวข้อ ความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของการใช้งาน e-Contract” โดยเน้นไปที่ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อถือได้ และการประทับตราอิเล็กทรอนิกส์ของนิติบุคคล และแนวทางการป้องกันความเสี่ยง ด้วยการใช้ Trust Service และการใช้ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์จาก Certificate Authority (CA) ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกรรมออนไลน์
นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้ AI ในงานกฎหมาย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของการอบรมครั้งนี้ โดยวิทยากรได้แนะนำ AI ขั้นพื้นฐาน และหลักการทำงาน รวมถึงยกตัวอย่างการนำ AI มาใช้เป็นผู้ช่วยในงานต่าง ๆ เช่น การวิเคราะห์ข้อสัญญา การจัดการเอกสาร และการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงข้อความ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีศึกษาเกี่ยวกับการนำ Generative AI มาใช้ในงานกฎหมายเบื้องต้น ซึ่งช่วยเปิดมุมมองใหม่ให้กับทนายความและที่ปรึกษากฎหมายในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น