รายงานตัวผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตร “การบริหารเชิงนิติศาสตร์ระดับสูง” (วทน.) รุ่นที่ 5

เมื่อวันศุกร์ที่ 12 กันยายน 2568 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 4 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ วิทยาลัยทนายความจัดให้มีการรายงานตัวผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตร “การบริหารเชิงนิติศาสตร์ระดับสูง” (วทน.) รุ่นที่ 5 โดยมีผู้เข้ารับการอบรมจากหลากหลายภาคส่วน รวม 90 คน ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรอิสระ และกรรมการสภาทนายความ ซึ่งได้รับเกียรติจาก ดร. วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ เป็นประธานในพิธีและกล่าวต้อนรับผู้เข้ารับการอบรม พร้อมด้วย นายสมพงษ์ จู่ตันซ่วน ผู้อำนวยการวิทยาลัยทนายความ กล่าวรายงานและวัตถุประสงค์ของหลักสูตร โดยมี ศาสตราจารย์พรชัย สุนทรพันธุ์ และ รองศาสตราจารย์ณัฐพงศ์ โปษกะบุตร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมงานในพิธี
ดร. วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ กล่าวว่า การอบรมหลักสูตร วทน. รุ่นที่ 5 มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับความเข้าใจด้านกระบวนการยุติธรรมและกฎหมายให้แก่ผู้บริหารทุกท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่โลกเข้าสู่สังคมไร้พรมแดนและยุคเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งความรู้ความเข้าใจในหลักกฎหมายทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้การบริหารองค์กรเป็นไปอย่างโปร่งใส มีธรรมาภิบาล และมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำความรู้ด้านกฎหมายและอื่น ๆ ในหลักสูตรไปพัฒนาศักยภาพผู้บริหาร ประเทศชาติและสังคมให้เจริญอย่างยั่งยืนต่อไป
ด้านนายสมพงษ์ จู่ตันซ่วน ผู้อำนวยการวิทยาลัยทนายความ กล่าวว่า การจัดหลักสูตรนี้มุ่งเน้นการพัฒนาผู้บริหารในทุกภาคส่วนให้สามารถบริหารงานได้อย่างสอดคล้องกับหลักกฎหมาย โดยผู้เข้ารับการอบรมทุกคนผ่านการคัดเลือกมาอย่างดี เพื่อให้ได้รับความรู้และประสบการณ์ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานและนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาองค์กรของตนเองต่อไป
นอกจากนี้ นายสมพงษ์ ยังได้กล่าวถึง วัตถุประสงค์เพื่อ ยกระดับความรู้เชิงลึกด้านกระบวนการยุติธรรม: เพื่อสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งและนำไปปรับใช้ในการบริหารองค์กรให้มีความโปร่งใสและเป็นธรรม เพิ่มพูนความรู้ด้านกฎหมายและระเบียบที่จำเป็น: เสริมสร้างความเข้าใจในกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารองค์กรขนาดใหญ่ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายภายในประเทศและกฎหมายระหว่างประเทศ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างภาครัฐและเอกชน: เปิดโอกาสให้ผู้บริหารทั้งสองภาคส่วนได้แลกเปลี่ยนมุมมองการบริหารที่สอดคล้องกับกฎหมายมหาชน กฎหมายเอกชน และกฎหมายระหว่างประเทศ และร่วมกันวางแนวทางการบริหารที่สอดคล้องกับกฎหมาย: พัฒนาแผนการบริหารองค์กรที่รับกับกฎกติกาและหลักสากลในทุกมิติ