สมาพันธ์สภาวิชาชีพแห่งประเทศไทยจัดเสวนาครั้งยิ่งใหญ่ 12 องค์กรร่วมถกบทบาทสภาวิชาชีพกับการคุ้มครองผู้บริโภค

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ที่ทำการสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ถนนพหลโยธิน กรุงเทพมหานคร สมาพันธ์สภาวิชาชีพแห่งประเทศไทย จัดงานเสวนาวิชาการ “บทบาทสภาวิชาชีพกับการคุ้มครองผู้บริโภค”
โดยในเวลา 09.00 น. ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ กล่าวให้การต้อนรับผู้เข้าร่วมงานเสวนา ซึ่งมีผู้แทนสภาวิชาชีพ 12 องค์กร ประกอบด้วย สภาทนายความ แพทยสภา สภาการพยาบาล สภาเภสัชกรรม สภาเทคนิคการแพทย์ สภากายภาพบำบัด ทันตแพทยสภา สัตวแพทยสภา สภาวิชาชีพบัญชี สภาวิศวกร สภาสถาปนิก และสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ โดยมี ดร.วิรัลพัชร เวธทาวริทธิ์ธร อุปนายกฝ่ายวิชาการ เป็นประธานจัดงานฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารสภาทนายความ ผู้แทนสภาวิชาชีพทั้ง 12 องค์กร เข้าร่วมงาน
จากนั้นเป็นการเสวนา เรื่อง “บริบทแต่ละสภาวิชาชีพที่มีต่อสังคม” โดยได้รับเกียรติจาก ศ.เกียรติคุณ พญ. สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา รศ.ดร. สุจิตรา เหลืองอมรเลิศ นายกสภาการพยาบาล ดร. วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ
ภก.ปรีชา พันธุ์ติเวช นายกสภาเภสัชกรรม ผศ.ดร. ทพ. สุชิต พูลทอง นายกทันตแพทยสภา ผศ.ดร. ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร นายประภากร วทานยกุล นายกสภาสถาปนิก รศ.น.สพ.ดร. ธีระ รักความสุข นายกสัตวแพทยสภา ทนพ. สมชัย เจิดเสริมอนันต์ นายกสภาเทคนิคการแพทย์ ศ.ดร.กภ. ประวิตร เจนวรรธนะกุล นายกสภากายภาพบำบัด นายวินิจ ศิลามงคล นายกสภาวิชาชีพบัญชี ศ.สค.ร.ระพีพรรณ คำหอม นายกสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ โดยมีนายสวัสดิ์ เจริญผล และนางสาว อัจฉรา แสงขาว เป็นผู้ดำเนินรายการ
จากนั้นในเวลา 10.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้เดินทางมาเป็นประธานในการเปิดงาน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวว่า ตนเองก็ได้รับเชิญเป็นนายกพิเศษสภาวิศวกร และสภาสถาปนิก จึงรู้สึกยินดีที่สมาพันธ์วิชาชีพแห่งประเทศไทยมีการจัดงานขึ้นมา เนื่องจากผู้บริโภคมีความสำคัญ ที่จะต้องได้รับการคุ้มครอง ขณะที่วิชาชีพก็มีคุณค่า มีความรู้ความชำนาญ มีความสำคัญ ทุกฝ่ายสามารถอ้างอิงได้ และช่วยจัดการปัญหาความขัดแย้งต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งจากภาครัฐ หรือเอกชนให้ยุติได้ จนส่งผลทำให้สังคมเกิดความสงบ จึงเปรียบเหมือน”เปาบุ้นจิ้น” ที่ประชาขนผู้เดือดร้อนมาพึ่งพา แต่ท่านจะต้องให้ความเป็นธรรม ซึ่งตนเองในฐานะเป็นตัวแทนภาครัฐพร้อมที่ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ
ด้าน ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ กล่าวว่า ตนถือว่าผู้บริโภคเป็นเรื่องใหญ่ในสังคมโลก ดังนั้นในฐานะที่ทางสภาทนายความเป็นส่วนหนึ่งที่จัดงานเสวนาในครั้งนี้ เรามีการตกลงกันว่าเรื่องใดที่จะเหมาะสมที่จะจัดการเสวนาครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของสภาวิชาชีพ ในนามสมาพันธ์สภาวิชาชีพแห่งประเทศไทย ในวันนี้เรายังต้องการให้นายกของสภาวิชาชีพทั้ง 12 แห่ง ได้มีโอกาสขึ้นมาพูดเพื่อให้ประชาชนรู้ว่าในแต่ละสภาวิชาชีพมีบริบทในสังคมเป็นอย่างไร
ในส่วนของสภาทนายความซึ่งเป็นหนึ่งในสภาวิชาชีพ โดยสภาทนายความก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2528 โดยก่อนหน้านี้ทนายความอยู่ภายใต้สังกัดการดูแลของศาลอุทธรณ์ เนติบัณฑิตยสภา จนช่วงหนึ่งมีกลุ่มทนายความอาวุโส ไม่ว่าจะเป็นศาสตราจารย์ มารุต บุนนาค ที่รวบรวมสมาชิกที่ประกอบวิชาชีพทนายความ ในการต่อสู้เพื่อยกระดับร่างกฎหมายในการนำมาปกครองกันเอง และมีการตั้งสมาคมทนายความแห่งประเทศในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2500 หลังจากนั้นมีการขับเคลื่อนกันต่อมาเรื่อย ๆ จนได้มาซึ่งพระราชบัญญัติทนายความ 2528 สาระสำคัญที่เป็นวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสภาทนายความขึ้นมานั้นจะอยู่ในมาตรา 7 ของพระราชบัญญัติทนายความ มีวัตถุประสงค์ 5 ข้อ และใน 4 ข้อแรก เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการจัดสวัสดิการการผดุงเกียรติและศักดิ์ศรีของการประกอบวิชาชีทนายความและควบคุมมรรยาททนายความ ส่วนอีก 1 ข้อจะเป็นเรื่องการแนะนำการเผยแพร่ ให้คำปรึกษาด้านกฎหมายแก่ทนายความและประชาชน
จากนั้นในเวลา 13.00 น.-16.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 4 และ ชั้น 5 สภาทนายความ ได้มีการเสวนาทางวิชาการกลุ่มย่อย จำนวน 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 กลุ่มวิชาชีพสุขภาพ กลุ่มที่ 2 กลุ่มวิชาชีพสังคม กลุ่มที่ 3 กลุ่มวิชาชีพสังคม / สิ่งแวดล้อม