สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ลงนาม MOU กับสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
วันนี้ (10 พฤษภาคม 2566) เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 3 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ : สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ร่วมกับสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ได้จัดให้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การรับความช่วยเหลือด้านการดำเนินอรรถคดีและการส่งเสริมทางวิชาการ” โดยมี ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมลงนามกับนายอิทธิพันธ์ บัวทอง นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย พร้อมด้วยนายวีรศักดิ์ โชติวานิช อุปนายกฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรรมการประชาสัมพันธ์และรองเลขาธิการ ลงนามเป็นสักขีพยาน
ทั้งนี้เพื่อร่วมมือประสานงาน ส่งเสริมและช่วยเหลือสื่อมวลชนที่ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพ ในการดำเนินคดีตามกฎหมายและการร่วมมือทางวิชาการ ให้เกิดความเข้มแข็งในการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่หวั่นกลัวต่อการคุกคามสิทธิและปราศจากความวิตกต่อการปฏิบัติงาน
ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า สภาทนายความตระหนักดีถึงปัญหาในการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ซึ่งสื่ออาจถูกฟ้องจากการนำเสนอเผยแพร่ข่าวจนตกเป็นเหยื่อในทางคดีได้ และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา สภาทนายความจะให้ความช่วยเหลือทั้งด้านอรรถคดีและการส่งเสริมวิชาการ โดยจัดอบรมให้ความรู้ในข้อกฎหมายเป็นสำคัญ เพื่อประโยชน์ต่อสังคมต่อไป
ด้านนายอิทธิพันธ์ บัวทอง นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย กล่าวว่า ทางสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยขอขอบคุณสภาทนายความในความร่วมมือครั้งนี้ และยินดีให้การสนับสนุนที่จะเผยแพร่กิจกรรมต่าง ๆ ของสภาทนายความ พร้อมเสนอให้ร่วมกันจัดอบรมคอร์สสั้น ๆ เพื่อให้ความรู้กับสื่อมวลชน
สำหรับสาระสำคัญของความร่วมมือ มีดังนี้
1. ช่วยเหลือผู้ประกอบวิชาชีพด้านสื่อสารมวลชน ผู้สื่อข่าว ช่างภาพข่าว นักหนังสือพิมพ์ สื่อวิทยุและโทรทัศน์ รวมถึงการนำเสนอข่าวออนไลน์ที่ต่อเนื่องกับสถานีข่าววิทยุและโทรทัศน์ เมื่อถูกดำเนินคดีอันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต รวมถึงคดีเกี่ยวพันกับการปฏิบัติหน้าที่ โดยให้เปล่าตลอดทุกชั้นศาล ยกเว้นการเสียค่าธรรมเนียมศาล ค่าฤชาธรรมเนียมต่างๆ ทั้งนี้ โดยผ่านการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการที่สมาคมนักข่าวฯ แต่งตั้งขึ้น
2. ช่วยเหลือ สนับสนุนด้านการดำเนินคดี เมื่อผู้ประกอบวิชาชีพด้านสื่อสารมวลชน ผู้สื่อข่าว ช่างภาพข่าว นักหนังสือพิมพ์ สื่อวิทยุและโทรทัศน์ รวมถึงการนำเสนอข่าวออนไลน์ที่ต่อเนื่องกับสถานีข่าววิทยุและโทรทัศน์ เป็นผู้กล่าวหา หรือเป็นโจทก์ฟ้องคดีแพ่ง อาญา ปกครอง โดยให้เปล่าตลอดในชั้นสอบสวน ทุกชั้นศาล ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล ค่าฤชาธรรมเนียมต่างๆ ทั้งนี้โดยผ่านการพิจารณาและการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการที่สมาคมนักข่าวฯ แต่งตั้งขึ้น
3. สนับสนุนด้านการให้ความรู้ทางกฎหมายแก่สื่อมวลชน
4. สนับสนุนการแลกเปลี่ยนทางวิชาการและการประชาสัมพันธ์ด้านกิจกรรมต่างๆระหว่างสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กับ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย