สภาทนายความพร้อมช่วยเหลือ บก.ข่าวถูกคุกคาม โดนเเย่งมือถือลบข้อมูลหลังทำข่าวคดีตู้ห่าว ชี้เป็นความผิดข่มขืนใจ

เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 เวลา 11.00 น. ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ กรุงเทพมหานคร ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย นายสุนทร พยัคฆ์ เลขาธิการสภาทนายความ นายวีรศักดิ์ โชติวานิช อุปนายกฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรรมการประชาสัมพันธ์ และรองเลขาธิการ นายสมพร ดำพริก อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ดร.ชัยชีพ ชโลปถัมภ์ กรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย และนายฉัตรประพล แย้มเพริศศรี กรรมการบริหารสภาทนายความ ภาค 1 ร่วมแถลงกรณีสื่อมวลชนสำนักข่าวหนึ่ง ถูกกลุ่มคนอ้างเป็นทนายความของตู้ห่าว ข่มขู่และแย่งโทรศัพท์มือถือไปลบภาพและข้อมูลข่าว เหตุเกิดที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ นั้น
ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า สภาทนายความยินดีให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้นพบว่าเป็นการกระทำเข้าข่ายการคุกคามทางเสรีภาพและข่มขืนใจ เพราะมีการกดดันแย่งโทรศัพท์ไปทำการลบภาพ และตรวจสอบพบว่า หนึ่งในผู้ก่อเหตุเป็นทนายความจริง โดยจะตรวจสอบว่าเป็นการผิดมรรยาททนายความหรือไม่ ซึ่งมีโทษตั้งแต่ภาคทัณฑ์ ห้ามทำการเป็นทนายความมีกำหนดไม่เกิน 3 ปี และลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความ ซึ่งเรื่องนี้เราต้องทำการคุ้มครองสื่อมวลชนซึ่งเป็นคนกลาง ในการนำความจริงเข้าสู่สังคมเมื่อสื่อปฎิบัติหน้าที่โดยถูกต้องตามกฎหมาย แต่ถูกคุกคาม จึงเป็นหน้าที่ของสภาทนายความที่จะเข้าช่วยเหลือทางกฎหมาย ดูพฤติการณ์และข้อกฎหมายว่าจะเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญาฐานใดบ้าง แต่อย่างน้อยที่สุดตนมองว่ามันเข้าข่ายความผิดต่อเสรีภาพและการข่มขืนใจ ตรงนี้เป็นหน้าที่ของฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายของสภาทนายความที่จะทำการสอบสวนข้อเท็จจริง และรับดำเนินการเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป
ส่วนความผิดในการเข้าถึงระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์จากโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ว่าจะเข้าข่ายหรือไม่ ต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง
ด้านนายสมพร ดำพริก อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย สภาทนายความ กล่าวว่า ทุกคดีที่มีการร้องเรียนเข้ามาทางสภาทนายความมีทนายความเฉพาะด้านที่พร้อมจะเข้าให้ความช่วยเหลือ เหมือนหมอเฉพาะทางไม่ว่าจะเป็นคดีเกี่ยวกับเด็กหรือคดีเกี่ยวกับสื่อมวลชน ดูแลฟ้องให้อย่างละเอียด และขอให้มั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรมอย่างแน่นอน ทางสภาทนายความให้ความสำคัญเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนมาก ซึ่งเหตุการณ์ความเป็นจริงก่อนหน้านี้มีชาวบ้านที่โดนแย่งโทรศัพท์มือถือและลบข้อมูลเป็นจำนวนมากแต่ไม่ได้เป็นข่าว แต่อันนี้ขนาดเป็นสื่อมวลชน ซึ่งเป็นผู้ดูแลความยุติธรรมให้กับสังคม ยังถูกกระทำแบบนี้เรื่องนี้ ทางสภาทนายความจะไม่นิ่งดูดาย จะช่วยให้ได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด